
ช่วงนี้ ความตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับสัญญาณนโยบายผ่อนคลายจากเฟด ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงต่อเนื่อง ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย บทความนี้จะวิเคราะห์ราคาทองคำจากหลายมุม ทั้งนโยบายมหภาค ค่าเงินดอลลาร์ เทคนิคทางกราฟ และการไหลของเงินทุน พร้อมเสนอแนวทางการลงทุนเพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
1. สงครามภาษีหนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
ช่วงนี้ ความตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสงครามภาษีระหว่างสหรัฐและเศรษฐกิจหลักอื่น ๆ ทำให้ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูง นักลงทุนหันไปซื้อ ทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยง
ปฏิกิริยาตลาด: แม้ตัวเลขเศรษฐกิจยังคงทรงตัว ราคาทองยังได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง
การวิเคราะห์: สงครามภาษีอาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกเกิดความผันผวน และเร่งการคาดการณ์เงินเฟ้อ ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับความสนใจมากขึ้น
2. สัญญาณผ่อนคลายอาจหนุนทองคำ
คำพูดล่าสุดของ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ชี้ให้เห็นว่า หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือตลาดเกิดความเสี่ยง นโยบายการเงินอาจยังคงผ่อนคลาย หรืออาจมีการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ผลกระทบ: นโยบายผ่อนคลายมักทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทอง
ความเชื่อมั่นตลาด: นักลงทุนคาดหวังสภาพคล่องสูงขึ้นในอนาคต ทำให้ความต้องการทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงสูงขึ้น
3. แรงซื้อทองยังแข็งแกร่ง
จากกราฟทางเทคนิค ราคาทองสามารถทะลุแนวต้านสำคัญ แสดงว่า เทรนด์ขาขึ้นยังคงมีแรงหนุน
แนวรับระยะสั้น: $2,300/ออนซ์
แนวต้านระยะสั้น: $2,360–$2,380/ออนซ์
ตัวชี้วัด: RSI อยู่ในระดับสูงเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงโซน Overbought; MACD ยังแสดงแรงซื้อชัดเจน
หากราคายืนเหนือแนวรับสำคัญ แรงซื้อยังสามารถผลักดันราคาต่อไปได้
4. สภาพตลาดและการไหลของเงินทุน
นักลงทุนสถาบันและกองทุนเฮดจ์ฟันด์เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นและแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงทำให้ทองคำเป็นทางเลือกสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยเสี่ยง: หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเกินคาด หรือดอลลาร์แข็งค่าอย่างรวดเร็ว ราคาทองอาจมีการปรับฐาน
5. แนวโน้มในอนาคต
จากปัจจัยมหภาค เทคนิค และสภาพตลาด คาดว่าทองคำมีแนวโน้มดังนี้:
การปรับฐานในกรอบสูง: ราคาทองอาจเคลื่อนไหวในช่วง $2,300–$2,380 และตามแรงซื้อ/แรงขายปรับตัวขึ้นหรือลง
เทรนด์ขาขึ้นยังคงมีแรงหนุน: ปัจจัยสนับสนุนหลักคือสงครามภาษีและสัญญาณผ่อนคลายนโยบายของเฟด
ความเสี่ยงการปรับฐานยังอยู่: หากดอลลาร์กลับแข็งค่าหรือความเสี่ยงตลาดลดลง ทองอาจปรับฐานเล็กน้อย
คำแนะนำการเทรด:
ระยะสั้น: แรงซื้อทองคำยังคงอยู่ แต่เริ่มชะลอ แนะนำติดตามแนวรับสำคัญ $2,300
ระยะกลาง: หากความกังวลด้านการค้าและดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง ราคาทองยังมีคุณค่าในเชิงกลยุทธ์
การจัดการความเสี่ยง: ควรควบคุมขนาดการถือครอง ตั้ง Stop Loss และติดตามเหตุการณ์เศรษฐกิจและนโยบายเฟดอย่างใกล้ชิด
สามารถทยอยสะสม Long เมื่อราคาทองปรับฐาน
นักลงทุนระยะสั้นควรรอจังหวะราคาย่อตัวก่อนเข้าออเดอร์
นักลงทุนระยะกลางสามารถถือ Long แต่ต้องติดตามปัจจัยมหภาคอย่างใกล้ชิด